https://www.youtube.com/watch?v=7ghwGOuuNy0
Any Day Now (2012)
Kobe's Meter : 8/10
ภาพยนตร์ทุนสร้างน้อยนิด แค่ 2 แสนเหรียญเรื่องนี้ อัดแน่นไปด้วยสารพัดดาราดีๆ ที่ตบเท้ากันมาช่วยโปรเจคต์หนังเรื่องนี้ให้ลุล่วงออกมาได้ และได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจากสารพัดสถาบัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จนักในทางรายได้ เนื่องจากจำนวนโรงฉายอันน้อยนิด บ้านเราก็เพิ่งเอามาฉายแบบจำกัดโรงที่ลิโด้ เฮาส์อาร์ซีเอ และเครือเอสเอฟ เมื่อเดือนสิงหาที่ผ่านมา
ราวที่สร้างจากเรื่องจริงที่โด่งดังในปี 1979 เกี่ยวกับเด็กน้อย อายุ 14 ย่าง 15 ปี ชื่อ Marco (Isaac Leyva) ที่มีอาการดาวน์ซินโดรม แถมดันโชคร้ายมีแม่ขี้ยาและมั่วเซกส์ ทิ้งให้เขาต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมแย่ๆ และไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
วันนึง ตำรวจก็เข้ามาจับกุมตัวแม่ของ Marco ไปเนื่องจากคดียาเสพติด ทิ้งให้เด็กน้อยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อย่างเขา ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว และกำลังจะถูกพาไปอยู่สถานสงเคราะห์ ..
ในขณะที่นางโชว์แดรกควีนส์ตัวกลั่นที่อาศัยอยู่ห้องข้างๆอย่าง Rudy ( Alan Cumming) ทนรับกับเรื่องต่างๆที่เขาคิดว่า อาจกำลังเกิดขึ้นกับ Marco หลังจากนี้ไม่ได้ จึงพยายามหาทางรับ Marco มาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมร่วมกับคนรักที่คบกันอย่างหลบๆซ่อนๆ คือทนายหนุ่มหล่ออนาคตไกลอย่าง Paul ( Garret Dillahunt )
ภาพยนตร์สื่อเรื่องราวการกีดกันทางเพศในสังคมยุคนั้นอย่างชัดเจนในทุกๆแง่ และประเด็นหลักในเรื่องของสิทธิของเด็กพิการทางสมองก็ตีโจทย์ออกมาด้วยบทที่เข้าถึงง่าย กว่า 30 ปีที่แล้ว การเป็นเกย์อย่างเปิดเผยนั้นไม่เป็นที่ยอมรับเลย แถมคนส่วนมากในสังคมยังคงตั้งป้อมรังเกียจพวกรักร่วมเพศ ว่าเป็นพวกประหลาด วิตถาร และมีความผิดปกติทางจิตใจ บวกกับเด็กปัญญาอ่อนคนนึง ... หนทางสู่ความเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์นั้น ริบหรี่ยิ่งกว่าแสงในก้นทะเลลึกซะอีก
ความยอดเยี่ยมของ Any Day Now คือการแสดงที่มีชีวิตของดาราทุกคน โดยเฉพาะ Alan Cumming ที่แสดงได้ดีมากจนขอเป็นแฟนคลับเพิ่มอีกคน ธรรมชาติอย่างที่สุดจนน่าคิดว่า ถ้า Acedemy ไม่สนใจ Cumming บ้าง ก็คงน่าตบสุดๆ นอกจากนี้ การคุมโทนการแสดงของนักแสดงคนอื่นๆทุกคน ก็ดูกำลังดี ไม่ over-acted มากจนดูตั้งใจจะให้คนดูคล้อยตาม ทุกคนสวมบทบาทได้ดูดี มีเสน่ห์ คาแรคเตอร์ชัดเจนตามพื้นฐานตัวละครทุกคน
อีกคนที่ต้องพูดถึง คือน้อง Isaac Leyva ที่รับบทเป็น Marco ซึ่งตัวตนจริงๆ เป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา หรือ ดาวน์ซินโดรมจริงๆ แต่การแสดงต่างๆที่ออกมานั้น ดูเกินกว่าสติปัญญาตามความบกพร่องของน้องมาก โดยเฉพาะสายตาและคำพูด ยอดเยี่ยมมากจนต้องชม ผกก. Travis Fines ที่เก่งมาก และเอาอยู่
อีกหนึ่งจุดคือ ภาพยนต์ไม่บีบคั้นคนดูด้วยอารมณ์แบบเมโลดราม่า ด้วยการใช้มุมกล้องที่ไม่ตั้งใจบีบให้เราอิน ... แต่พอซีนนั้นๆผ่านมา เราจะออกอาการเงิบ และอินไปเองด้วยสายตา คำพูด และท่าทางต่างๆของตัวละคร เป็นหนังที่มีผลกระทบทางใจหลังภาพยนตร์จบมากสุดๆเรื่องนึง คือดูจบแล้วก็ออกมาคิดต่อ น้ำตาไหลต่อนอกโรงได้ โดยเฉพาะฉากที่ Marco ถูกรับตัวมาอยู่ที่บ้านของคู่รักเกย์วันแรก (นาทีที่ 1:33 ในเทรลเลอร์ด้านบน) เมื่อเดินขึ้นไปถึงห้องนอนที่ถูกจัดเตรียมไว้ต้อนรับเขาอย่างดี เขาพูดออกมาว่า "I am so excited" มันมีพลังมาก มากพอที่จะทำให้คนเห็นแก่ตัวสักคนนึง อยากลุกขึ้นมาทำอะไรดีๆให้คนอื่นบ้าง เพื่อจะได้สัมผัสช่วงเวลาที่เรามีความสุขกับการเป็นผู้ให้ แบบวินาทีนั้น
ไม่ขออธิบายมาก เพราะดราม่าแบบนี้ ต้องดูเอง แต่สิ่งที่คุณจะได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้คือ " ความเป็นคน " กระตุ้นเตือนใจเราถึงเหตุผลที่เราต่างจากอะไรที่ไม่ใช่คน ว่ามันคืออะไรครับ
เรารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเราเป็นคน เรามีปัญญาต่างจากสัตว์ แต่ปัญหาคือ เราเลือกที่จะทำสิ่งนั้นรึเปล่า .. และนั่นแหละคือคำตอบของ Any Day Now ครับ
No comments:
Post a Comment