Tuesday, September 25, 2012

รีวิว - REVIEW : CLINIQUE Repairwear Laser Focus Wrinkle & Photodamage Corrector

A Very Good KICK-START Serum for everyone


วันนี้ กบมานำเสนอรีวิวสกินแคร์ชิ้นที่สองของบล๊อก ซึ่งก็คือเจ้า CLINIQUE repairwear laser focus ตัวนี้นี่เอง


เจ้า Clinique repairwear laser focus ตัวนี้ เป็นเซรั่มที่ทางคลีนีกนั้นสุดแสนจะนำเสนอมากที่สุดในสามโลกแปดพิภพ ว่ามีข้อดีอย่างนั้นอย่างนี้ ถึงขนาดเคลมไว้ว่าให้ผลในการลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำที่เกิดจากมลภาวะและแสงแดดได้ใกล้เคียงกับการทำเลเซอร์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง!! ถามว่ามันน่าเชื่อมั้ย ... กบว่าไม่ แต่ในใจก็แอบอยากลองดูเหมือนกัน ว่ามันกล้าพูดแบบนี้นี่มันจะแจ่มขนาดไหนกันเนาะ

ว่าแล้วก็ยกหูโทรหาเพื่อนสาวนางฟ้าของสายการบินแห่งชาติ ว่าหล่อน ซื้อมาให้ชั้นลองหน่อยเถอะ คันมาก อยากได้อยากลอง เผอิญอีเพื่อนอยู่ตรงดิวตี้ฟรีพอดี้ เลยได้มาในวันนั้นเลย แถมได้มา 2 ขวดอีกต่างหาก เนื่องจากถ้าซื้อสองขวด(30ml) จะได้รับส่วนลดเพิ่มจากเดิม 10% เป็น 20% จากราคาตั้งแบบปลอดภาษี Oh My Load!! จึงเอวังด้วยประการฉะนี้

กบเองมีประสบการณ์ที่ค่อนข้างดีกับแบรนด์นี้มาอย่างยาวนาน (ตั้งแต่สมัยมัธยมนุ่งกางเกงขาสั้นสีกากีเลยแหละ^_^)  เนื่องจากตั้งแต่ใช้ของคลีนีกมา ไม่เคยพบว่าสินค้าของคลีนีกทำให้แบะปากเลย อย่างแย่ก็แค่เฉยๆ เพราะฉะนั้นแล้วจะรออะไร ลองๆไปเหอะ ... (ปลอบใจตัวเองโหมด หลังจากเสียตังค์ไปสามพันกว่าบาท หุหุ)



**รีวิวนี้ ไม่ได้ทดสอบด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เป็นการทดลองใช้ของผู้เขียนบลอคเอง โดยกำหนดเวลาในการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นอย่างต่ำที่ 14 วัน ขึ้นไปเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนกับตัวผู้เขียนบลอคเอง ผู้อ่านกรุณาใช้วิจารณญานในการรับข้อมูลด้วยครับ**




CLINIQUE repairwear laser focus
   
30 ml 2,500 THB
Main Ingredients;
Water/Aqua, Methyl Gluceth-20, PEG-75, Bis PEG-18 Methyl Ether Dimethyl Silane, Butylene Glycol, Glycereth-26, Pentylene Glycol, Sigesbeckia Orientalis (St. Paul's Wort) Extract, Retinyl Palmitate, Glycyrrhiza Glabra (Licorice) Leaf Extract, Plankton Extract, Punica Granatum (Pomegranate) Juice Extract, Arabidopsis Thaliana Extract, Sea Whip Extract, Whey Protein, Pinanediol, Camphanediol, Glycine Soja (Soybean) Protein, Ergothioneine, Pantethine, Acetyl Hexapeptide-8, Caffeine, Micrococcus Lysate, Hydrolyzed Jojoba Ester, Palmitoyl Oligopeptide, Anthemis Nobilis (Chamomile), Linoleic Acid, Betain, Squalane, Sodium Mannose Phosphate, Oleth-3 Phosphate, Oleth-3, Glycerin, Ethylhexylglycerin, Oleth-5, Glyceryl Polymethacrylate, Bisabolol, Choleth-24, Aminopropyl Ascorbyl Phosphate, Hyaluronic Acid, Sodium Hyaluronate, Tocopheryl Acetate, PEG-8, Xanthan Gum, TEA-Citrate, Sodium Carbomer, Disodium EDTA, Phenoxyethanol.

ดูจากส่วนผสมแล้ว พบว่าโดยรวมค่อนข้างไม่ทำร้ายผิว จะมีแรงหน่อยก็แค่ Retinyl Palmitate แต่ก็ผสมมาแบบเบาๆ สรุปเอาได้เองเลยว่าไม่น่ามีปัญหากับผิวแพ้ง่ายแน่ๆและตัวนี้เป็นตัวที่ผลิตขายในประเทศแถบเอเชียเท่านั้น มีส่วนผสมหลักบางตัวต่างกับของที่ขายที่อเมริกา คือเบาบางกว่า และมีสารปลอบประโลมผิวบางตัวเพิ่มขึ้นมา ปรับให้เหมาะกับผิวชาวเอเชียอย่างเราที่แสนจะน่าถนุดถนอมว่างั้นเถอะ ^-*

ขวดจริงขนาด 30ml เป็นขวดพลาสติกขุ่นพร้อมดรอปเปอร์แบบแท่งพลาสติก
ตามคำอธิบายในเอกสารกำกับที่ละเอียดยิบนั้น สรุปคร่าวๆได้ว่าให้ใช้ได้ทั้งเช้า เย็น เป็นเซรั่มปกติที่เอาไว้ลงหนังหน้าก่อนลงครีมบำรุงหลักตัวอื่นๆตามนั่นเอง

เนื่อเซรั่มที่หยดออกมา สีขาวใส เนื้อไม่ข้นมาก แต่ไม่ใสจ๊อก
วิธีการใช้คือ หยดเซรั่ม 3-4 หยดจากดรอปเปอร์ลงบนฝ่ามือ แล้วประกบฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน คลึงเนื้อเซรั่มให้ทั่วฝ่ามือแล้วค่อยๆบรรจงแปะลงไปบนใบหน้าที่ล้างมาสะอาดแล้ว ค่อยๆกดๆ คลึงๆ ให้เซรั่มลงไปสู่ผิว ให้ผิวได้รับเนื้อเซรั่มอันอ่อนโยนนี้จนทั่วหน้า และอาจจะลามมาถึงใต้คางและลำคอด้วยหากยังเหลือความลื่นอยู่ แล้วจึงตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ตัวอื่นที่คุณใช้อยู้แล้ว ถมลงไปที่หลัง
เนื้อที่บางเบานั้น ไม่ได้แปลว่าจะต้องใช้เยอะเลย แค่หยดเดียวก็ทั่วผิวหลังมือแล้ว

พูดกันในเรื่องของเนื้อเซรั่มกันบ้าง เนื้อไม่หนัก สีขุ่นขาวออกไปทางใส มีกลิ่นหอมอ่อนๆออกแนวดอกไม้ในสวนกับกลิ่นฟรุตตี้นิดๆ แต่ไม่ถึงกับเรียกได้ว่ามีน้ำหอม เพราะกลิ่นไม่แรงเลย (คลีนีกเค้าเคลมตลอดว่าของเค้า ปราศจากน้ำหอม) พอลงสู่ผิวหน้าปุ๊ป จะรู้สึกเย็นนิดๆ แล้วในระหว่างที่แปะๆหน้าอยู่ จะรับรู้ได้ถึงความชุ่มชื่นที่เซรั่มกำลังมอบให้ผิวเรา แต่ไม่กี่อึดใจ เจ้าเซรั่มทั้งหมดก็ซึมหายลงไปในผิวแบบไม่เหลือร่องรอยเลยทีเดียว ต้องให้คะแนนตรงนี้ว่าทำเนื้อเซรั่มออกมาได้โดนใจคนหน้ามันอย่างกบมากที่สุด คือเหลือไว้แต่ความรู้สึกว่าผิวได้รับการบำรุงแล้ว ไม่ได้แบบว่าซึมหายไปเลยแล้วก็ทิ้งให้หน้าชั้นแห้งอยู่แบบนั้น .. 

การลงครีมอื่นๆตามทันทีหรือหลังจากปล่อยไว้สักพัก พบว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ไม่มีอาการเป็นคราบ เป็นปื้น หรือออกมาเป็นขุยๆ ไคลๆแบบที่เซรั่มราคาเป็นมิตรหลายยี่ห้อจากแดนกิมจิเป็น ที่สำคัญคือ เมื่อใช้ในตอนเช้า สามารถลงกันแดดทุกชนิด หรือจะรองพื้น จะบีบี จะเบสอะไรก็ไม่มีปัญหา คือเข้ากันได้กับผลิตภัณฑ์อื่นๆจากหลากหลายยี่ห้อได้ดี (เท่าที่กบมีนะ) 

มาในเรื่องของผลลัพธ์จากการใช้บ้าง

ครั้งแรกที่ใช้ = ผิวชุ่มชื่นแน่นอน และรู้สึกว่าผิวแน่นขึ้น ตึงขึ้นแบบอุปโลกไปเองทันที^_*

หลังจากใช้ต่อเนื่อง เช้า-ก่อนนอน เป็นเวลา 7 วัน = รู้สึกได้ว่าสภาพผิวดี กระจ่างใสขึ้นนิดหน่อย ไม่เป็นสิวใหม่

หลังจากใช้ต่อเนื่อง เช้า - ก่อนนอน เป็นเวลา 14 วัน = รอยคล้ำจากแสงแดดและรอยแดงจากความมือบอน (บีบสิวจนช้ำ) แลดูเบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์บนใบหน้าดูเนียน เรียบ ตื้นขึ้นนิดหน่อย ผิวหน้าโดยรวมกระจ่างใสขึ้นอย่างมีคนทัก

หลังจากใช้มาแล้วอย่างต่อเนื่องบ้างไม่ต่อเนื่องบ้าง เป็นเวลา 6 เดือน = หมดไป 1 ขวดกับอีกนิดๆ ก็ต้องบอกเลยว่า เป็นหนึ่งในเซรั่มที่ควรมีติดบ้านไว้เลยแหละ เพราะผลจากการใช้ค่อนข้าง
น่าพอใจมาก ในแง่ของการเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ผิวกระจ่างใสขึ้น ริ้วรอยเล็กๆเนียนเรียบขึ้น ผิวหน้าแน่น กระชับขึ้น และมีความยืดหยุ่นสูงขึ้นด้วยครับผม

สรุปคะแนน 4/5

ข้อดี
- ดีกับทุกสภาพผิวเลยจริงๆ ทั้งผิวที่โทรมจัด ผิวคล้ำจากแดด ผิวนอนดึก สารพัดที่มลภาวะและไลฟ์สไตล์จะทำร้ายได้ ขวดนี้เอาอยู่ แต่ต้องมือหนักหน่อยนะ จะแค่ 3 หยดอย่างที่มันบอกอ่ะ ไม่พอหรอก หน้าเยินๆนี่ต้องจัด 5 หยดโลด!!
- การซึบซับลงสู่ผิวดีมาก ไม่มันเลย ไม่เงาหน้าด้วย แต่ก็ไม่แห้งเลยนะเออ
- เป็นเพื่อนที่ดีมากกับครีมอื่นๆ ใช้ควบคู่กับอะไรก็ได้ ไม่มีปัญหา (เท่าที่กบลองนะ)
- ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากในแง่ของความกระจ่างใสของผิว ความเรียบเนียนของผิว และความกระชับและแน่นขึ้นของผิว 
- ราคาดีสำหรับคุณสมบัติไฮโซแบบนี้ เกินคุ้ม!!

ข้อเสีย
- ไม่ได้ดีขนาดไปหาหมอยิงเลเซอร์แน่นอนอย่างที่เคลมไว้ คือจุดด่างดำไม่ได้หายไปไหน แค่จางๆลงบางๆลงนิดๆ ริ้วรอยลึกก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก แค่ดูเนียนขึ้น เลยขอตัดคะแนนนึงด้วยความหมั่นไส้ที่ตั้งชื่อซะ..... เกินไปป่ะหล่อน แต่ถ้าว่ากันในระยะยาว แน่นอน เซรั่มตัวนี้..ประเสริฐมาก
- ผิวไม่ขาวขึ้นนะ (ก็เพราะไม่ใช่ไวท์เทนนิ่งไง) 

เหมาะกับ ใครที่อยากหาเซรั่มคุณสมบัติครบถ้วนสักขวดมาใช้ ซื้อเลยครับ ยิ่งถ้าคุณเป็นวัยเริ่มดูแลผิวนี่แนะนำเลยว่าให้ใช้ไปยาวๆ จะไม่ต้องเช้า-เย็นก็ได้สำหรับผิวที่ไม่มีปัญหา ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องความหมองคล้ำ ผิวไม่เรียบเนียน แต่งหน้าไม่ติด ฟาดเลยครับ อย่าลังเล แล้วคุณจะไม่ผิดหวังเลยครับ !!!


ขอบคุณครับสำหรับการติดตามอ่าน แล้วเจอกันรีวิวหน้านะครับ ไม่นาน ไม่นาน^_^





บ่น บ่น บ่น หน้ามรสุม เดือนเก้า ๒๕๕๕

วันนี้ขอบ่นหน่อนนะ... เรื่องประจำวันเลย
ฝนตกปุ๊ปรถติดปั๊ป น้ำขังทันที กทม.มาลอกท่อ เจาะถนนอะไรเอาหน้าฝนครับ หรือถ้าเป็นไปอย่างที่ท่านผู้ว่าฯกล่าวอ้าง ว่างบประมาณสำหรับที่จะจัดการปัญหาเหล่านี้เพิ่งอนุมัติมาจำนวนหนึ่งจากรัฐบาล ช่วยเอาเอกสารยืนยันออกมาแหกหน้ามันด้วยครับ ว่าไม่ใช่อย่างที่ผมเข้าใจ อย่ามัวแต่อ้ำๆอึ้งๆพูดจากระมิดกระเมี้ยน คนเป็นผู้นำนะครับ ต้องกล้าชน กล้าลุยในเรื่องที่ถูกที่ควร ถ้าทำไม่ได้ ท่านควรไปอยู่เบื้องหลัง ให้คนปากดีๆมาออกหน้าแทนท่านจะดีกว่าครับ หงุดหงิด

แล้วเมื่อเช้า รองผู้บัญชาการ ตร.นครบาล ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ที่รถติดกันหนึบหนับใน กทม.นั้น เป็นเพราะไม่มีระบบการจัดการที่ดีพอ เนื่องจากปริมาณรถใน กทม.ขณะนี้ คือ 6.62 ล้านคัน ในขณะที่ถนนใน กทม.นั้น รองรับได้เพียง 1.7 ล้านคันเท่านั้น!! กทม.ต้องรีบปรับปรุงแก้ไขเส้นทางการเดินรถและจัดการเพิ่มช่องทางและขยายถนนเป็นการเร่งด่วน!!! 
พ่องงมึง!! อีรถคันแรกนี่เพิ่มรถใน กทม. 6.7 แสนคันในเวลา 6 เดือนนี่มึงไม่เคยคิดกันเลยเนอะ แล้วขยายถนนHaHewอะไรนี่เป็นเรื่องของใครไม่ทราบ ไม่ใช่กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมที่พ่อแม่ท่านคุมอยู่เหรอ ไอ้ตำหนวดหัวมะเขือเน่า

ส่วนท่านชู เบอร์5 ก็อีกคน วันๆทำแต่เรื่องจับผิดรัฐบาล แต่เรื่องที่ท่านจับผิดได้แต่ละเรื่อง ผมไม่เห็นเลยว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นมาในบ้านเมืองนี้เหมือนตะโกนขึ้นมากลางตลาดว่า "เจ้าข้าเอ๊ย หาบส้มตำนี่ไม่จ่ายค่าแผง" แล้วไง คนเห็นก็เห็น คนไม่เห็นไม่ได้ยินก็เดินผ่านไป ไม่มีใครอยากกินส้มตำ ไม่มีคนเก็บค่าแผงอยู่ตรงนั้น ตะโกนออกมาก็เปล่าประโยชน์ สรุปคือ ท่านพยายามทำสิ่งที่ดี (เท่าที่เห็นจากสื่อ) แต่ในเมื่อหลักฐานไม่ชัดเจนจนเอาผิดใครได้ ก็อย่าปลุกกระต่ายให้ตื่นตูมเลย ถ้าจะชนต้องชนให้ตาย ไม่ใช่เฉี่ยวๆแล้วประกันไม่จ่ายแบบนี้ไม่เกิดประโยชน์ครับ เบื่อ

Sunday, September 9, 2012

รีวิว - REVIEW : THE GINZA SKINCARE the basic  

ครีมไฮโซจากแดนอาทิตย์อุทัย... อืม ไม่เสียหน้าแม่ชิฯจริงๆ


 กบขอประเดิมรีวิวแรกของบล๊อค ด้วยสกินแคร์จากประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและที่มาอันยาวนาน ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1941 จวบจนปัจจุบัน  The Ginza Cosmetic  ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเครื่องสำอางค์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในญี่ปุ่น และอันดับต้นๆของโลก นั่นก็คือ Shiseido นั่นเอง

ต้องขอเกริ่นถึงแบรนด์นี้สักนิดนึงก่อน เนื่องจากว่า อาจจะเป็นอะไรที่ไม่ค่อยคุ้นหูพวกเราสักเท่าไหร่ (แต่กบมั่นใจว่า กูรูบิวตี้และพวกชอบลองอย่างผมน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี)

The Ginza เป็นแบรนด์ที่ตั้งอยู่ในระดับ Top line ของ Shiseido จะว่าไปก็สูสีกันกับ clé de peau beauté ทั้งในแง่ของคุณภาพ และราคาที่แพงเว่อร์วี่มาก แต่ The Ginza ไม่ทำตลาดที่ต่างประเทศเลย และก็ทำการตลาดในเชิงโฆษณาน้อยมากในญี่ปุ่น เหมือนเป็นแบรนด์ที่เก็บเอาไว้ใช้เองในประเทศว่าอย่างนั้นแหละ  ... ขี้หวงตามประสาคนญี่ปุ่นยุคเก่า 555

โดยร้านดั้งเดิมนั้น ตั้งอยู่ในเมืองหลวงโตเกียว เขตกินซ่า ซึ่งในสมัยก่อนนั้น ถือว่าเป็นย่านการค้าที่สำคัญมาก เพราะใกล้อ่าวโตเกียวพอสมควร เป็นย่านที่มีผู้คนสัญจรไปมาทั้งวี่ทั้งวัน ทำให้ร้านเครื่องสำอางค์ร้านนี้ มีชื่อเสียงในหมู่ชนชั้นพ่อค้า และนักธุรกิจ  

ปัจจุบันนี้ ย่านกินซ่าเป็นย่าน shopping ที่เรียกได้ว่า หรูหรา ไฮโซที่สุดแล้วในญี่ปุ่น มีร้านค้า flag-ship store ของสารพัดแบรนด์เนมจากทั่วโลกมาตั้งกันแน่นบนถนนสายนี้ และนี่ คือร้าน The Ginza บูติคร้านเดียวในญี่ปุ่น (ไม่นับรวมเคาน์เตอร์ในห้างนะจ้ะ) 
ซึ่งใกล้ๆกันนั้น ก็เป็นที่ตั้งของร้านแบรนด์ยานแม่อย่าง Shiseido แบบเดินถึงกันได้เลยทีเดียว
ไลน์สินค้าของ The Ginza นั้น มีอยู่แค่ 2 อย่างเท่านั้น คือ SKINCARE กับ PERFUMS ซึ่งจะไม่ขอพูดถึงมากในจุดนี้ เอาเป็นว่า ใครสนใจมากกว่าที่มีอยู่ในรีวิวนี้ ก็เชิญกดตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะขอรับ
http://www.theginza.co.jp (ภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ หุหุ) โดยที่ skincare ของ The Ginza นั้น จะมีส่วนผสมหลักที่สำคัญและเป็นตัวชูโรงของผลิตภัณฑ์ของเค้า นั่นก็คือ Energizing formulated broth หรือน้ำพลังงานมหัศจรรย์สูตรพิเศษ ประมาณนั้นแหละครับ โดยที่ไอ้เจ้าน้ำสูตรพิเศษเนี่ย เป็นการนำเอาส่วนผสมที่มีคุณค่ามากมายมหาศาลต่อเซลล์ผิว เน้นการสร้างชีวิตให้กับเซลล์ผิว เพื่อให้ผิวปลดปล่อยพลังงานออกมาเองอย่างสม่ำเสมอ อารมณ์เหมือนทำให้ผิวเรามีชีวิต และออกกำลังกายเอง จนมีสุขภาพแข็งแรง สามารถต่อต้านความเสื่อม และฟื้นฟูตนเองขึ้นมาได้ อะไรประมาณนั้นเลยครับ 
เจ้านี่ละครับ EMPOWERIZER เรือธงของ The Ginza ราคานิดหน่อย กระปุกละ 105,000 YEN เอง


น้ำที่ว่านั้นสกัดมาจากพืชท้องถิ่นในญี่ปุ่นกว่า 100 ชนิด!! นำมาหมักบ่มและพัฒนา จนได้สูตรที่ลงตัว และใช้กันมาอย่างยาวนานจนสร้างชื่อขึ้นมาจวบจนปัจจุบัน ถามว่าไอ้น้ำอะไรเนี่ย มันคืออะไรกันแน่ .. คำตอบคือ ไม่ทราบครับ เพราะสูตรของน้ำมหัศจรรย์นี้ เป็นความลับ คงจะเหมือนกับน้ำ broth สาหร่ายของ La Mer หรือน้ำยีสต์หมักของ SKII แหละครับ ที่เค้าจะบอกแค่ส่วนผสมหลัก แต่จะหมัก จะคลุก จะผสมอย่างไรนั้น ไม่บอก 5555 ผู้บริโภคอย่างเราก็ต้องลองๆกันไปครับ อันไหนดี อันไหนโดน ก็ค่อยมาว่ากันอีกที่ อย่างว่าแหละครับ ของแบบนี้ ไม่ลองไม่รู้เนอะ


**รีวิวนี้ ไม่ได้ทดสอบด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ เป็นการทดลองใช้ของผู้เขียนบลอคเอง โดยกำหนดเวลาในการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นอย่างต่ำที่ 14 วัน ขึ้นไปเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนกับตัวผู้เขียนบลอคเอง ผู้อ่านกรุณาใช้วิจารณญานในการรับข้อมูลด้วยครับ**



รีวิว - Review : The Ginza Skincare basic

สำหรับรีวิวนี้ จะเจาะจงไปที่ชุดดูแลผิวหน้าเบื้องต้นของแบรนด์ The Ginza อันได้แก่
- Creamy cleansing foam
- Energizing lotion
- Moisturizing emulsion 

3 ตัวนี้เป็นตัวเริ่มต้น สำหรับผู้อยากลองสัมผัสกับแบรนด์นี้ ด้วยราคาที่ไม่แพงมากเหมือนครีมตัว Top ของเจ้านี้ ( empoerizer กระปุกละ105,000 YEN ซึ่งจะนำมารีวิวในโอกาสต่อไป) และกบเองได้ยินมานานมาก ว่า cleansing foam ของ The Ginza นั้น ล้างหน้าได้สะอาดเทพมาก และไม่แห้งตึงหลังการล้าง ได้ยินแล้วอยากลองมากกก เพราะโฟมล้างหน้าส่วนมาก โดยเฉพาะของ Shiseido นั้น ล้างแล้วหน้าตึง ดึงประจุเข้าหน้าทั้งนั้น เลยตัดสินใจลองซื้อขนาด Travel size มาทดลองก่อน

Creamy cleansing foam
   
130g 6,300 JPY
Main Ingredients;
Water, glycerin, stearic acid, sorbitol, myristate, PEG-6, PEG-32, K hydroxide, lauric acid, PEG-60  glyceryl isostearate, cocoyl methyl taurine Na, lauryl betaine, glyceryl stearate (SE), beeswax, Na lauryl glycol acetate, betaine, Kyung Ryu extract, camellia seed, yellowfin bark extract, polyquaternium -51, carboxymethyl glucan Na, hydroxyalkyl maltitol (C12, 14), EDTA-3Na, ethanol, BG, EDTA -2Na, tocopherol, Na benzoate, phenoxyethanol, fragrance, iron oxide

ขนาดจริง 130g

หลอดขนาด 50g ที่ผมใช้

เนื่อครีมโฟมแน่นคลั่ก
ตามคำแนะนำการใช้ เค้าบอกว่าใช้โฟมปริมาณเล็กน้อยบีบลงบนฝ่ามือ แล้วผสมน้ำ ถูจนเกิดฟอง ซึ่งต้องบอกว่า ด้วยปริมาณเท่าเม็ดถั่วแดง ก็ให้โฟมขนาดที่พอจะล้างหน้ามันๆเยิ้มๆได้สะอาดแล้วครับ  ความรู้สึกแรกที่สัมผัสคือ หอมครับ หอมแปลกๆ หอมสะอาดๆ หวานนิดๆ  ไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้จากไหนมาก่อน เลยไม่รู้จะบอกว่าหอมเหมือนอะไรดีอ่ะ ดูจากส่วนผสมแล้ว มีน้ำหอมด้วย คงกลิ่นน้ำหอมของเค้านั่นแหละ^-^

โฟมเยอะอยู่ อีกครึ่งนึงแปะหน้าไปแล้ว เพราะต้องถ่ายรูป^_^
สำหรับการล้างหน้านั้น ต้องยอมรับว่าได้ผลดีเลิศ สมกับที่คนญี่ปุ่นแนะนำมากันหลายคน เพราะล้างได้สะอาดมาก ฟองครีมนุ่ม ละมุนสุดๆ และล้างออกง่าย ไม่เหนอะหนังหน้า และที่สำคัญคือ พอซับหน้าให้แห้งแล้ว ผิวไม่แห้งตึงเลย แต่ไม่ได้ลื่นๆเหมือนกลีเซอรีนเคลือบหน้าด้วย เหมือนผิวเดิมของเราจริงๆที่สะอาดแล้ว ประมาณนั้นเลยครับ

สรุปคะแนน 5/5

ข้อดี
- ล้างหน้าได้สะอาดจริงจังแบบขั้นตอนเดียวอยู่ เหมาะกับคนที่แต่งหน้าแบบปกติประจำวัน และคนทั่วๆไปที่อาจจะแค่ทาครีมกันแดด และลงแป้งเบาๆ หรือกับผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงก็เอาความมันออกได้เกลี้ยงเลยครับ เพราะกบเองเป็นคนที่ผิวหน้ามันมาก
- หลังล้างแล้ว ผิวไม่แห้งตึงเลย แถมยังนุ่ม ชุ่มชื่นนิดๆด้วย สำหรับกบที่เป็นคนมีผิวมัน (แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าคนผิวแห้งก็ไม่น่าจะแห้งมากหลังใช้เช่นกัน)
(สำหรับผู้ที่แต่งหน้าแบบจัดเต็ม กรุณาใช้ cleansing ชนิดอื่นๆประกอบด้วย)
- กลิ่นหอมอ่อนๆ รู้สึกดีกับกลิ่นนี้มาก ทำให้มองข้ามความแพงไปเลยล่ะเธอ ^..^

ข้อเสีย
- แพงเอาเรื่อง ถ้าเทียบกับปริมาณ (หลอดละตก 2,5xx THB) 
- มีโฟมล้างหน้ายี่ห้ออื่นที่ให้ผลดีใกล้เคียงกัน แต่คงไม่หอมรู้สึกดีเท่านี้

เหมาะกับ ใครที่อยากได้โฟมล้างหน้าสักอันที่ล้างได้สะอาดสุดๆ แต่ไม่แห้งตึง รับได้กับราคาที่ค่อนข้างเอาเรื่อง!!!


Energizing Lotion
   
200ml 18,900 JPY
Main Ingredients;
Wed, DPG, ethanol, glycerol, erythritol, PEG/PPG-14/7 dimethyl ether, Na hyaluronic acid, hydroxypropyl cyclodextrin, polyquaternium -51, extract Gyo Liu, Na acetyl hyaluronic acid, extract stem akebi, carboxymethyl glucan Na , citric acid, BG, tocopherol, phenoxyethanol, perfume, camellia seed extract, PEG/PPG-30/10 dimethicone, PEG-20, PPG-13 de process decyl tetra -24, Na citrate, EDTA-3Na, 504 red, yellow 4
ขนาดจริง 200ml
ขนาด 80ml ที่ใช้
Energizing lotion ตัวนี้ ทำหน้าที่เป็นโลชั่นบำรุงผิวขั้นต้นหลังจากการทำความสะอาดผิวหน้า คล้ายๆกับ Essence ของ SKII  ไม่ใช่โลชั่นเช็ดหน้าเพื่อทำความสะอาด คือไม่ใช่โทนเนอร์นั่นเอง คุณสมบัติที่เคลมไว้ คือเพื่อเตรียมผิวหน้าให้ตื่นตัว สดชื่น ปลุกเซลล์ในชั้นผิวให้ตื่นและสร้างพลังงานให้กับผิว เพื่อเตรียมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป คุณสมบัติตามชื่อเปี๊ยบ!!!!

ตามคำแนะนำการใช้งาน คือใช้หลังทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว เหยาะผลิตภัณฑ์ปริมาณเท่าเหรียญ 500 YEN (ประมาณเหรียญสิบ) ลงบนสำลีเช็ดหน้า แล้วเช็ดให้ทั่วผิวหน้าอย่างอ่อนโยนและกดผิวหน้าเป็นจังหวะๆเพื่อให้โลชั่น ซึมซาบเข้าสู่ผิว
โลชั่นมีสีอมส้มอ่อนๆ มีกลิ่นหอมเล็กน้อย
หลังจากใช้แล้ว พบว่าปริมาณที่ไม่ได้เยอะมากต่อการใช้นั้น เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับผิวทั่วทั้งหน้าได้ความรู้สึกคือ สบายๆ ไม่รู้สึกเย็น หรือร้อนหน้าขณะที่ใช้ หลังใช้แล้ว หน้าชุ่มชื่นขึ้นนิดหน่อย แต่สักพักจะรู้สึกร้อนหน้าขึ้นด้วย แต่ไม่ได้ร้อนแบบแสบๆ คือเหมือนผิวจะอุ่นขึ้นนิดๆแบบพอเอามือจับหน้าแล้วรู้สึกได้จริงๆว่ามันอุ่นๆ (แปลกแหะ) สงสัยจะกระตุ้นพลังงานขี้นมาจริงๆด้วยแหะ^-^ 

สรุปคะแนน 4/5

ข้อดี
- ผิวชุ่มชื้นขึ้นทันทีที่ใช้ 
- ผิวอุ่นขึ้นเล็กน้อย(จากการสัมผัส ไม่ได้วัดด้วยอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์) ให้ความรู้สึกเหมือนว่าผิวเรามีพลังงานขึ้นมาเลยแหละ ^..^

ข้อเสีย
- แพงมากกกกกกก แค่ 200ml ราคาปาไป 7,5xx THB 
- ไอ้ที่รู้สึกอุ่นๆน่ะ สรุปว่าดีกับผิวหน้าในระยะยาวรึเปล่าไม่รู้แน่ชัด 

เหมาะกับ คนชอบลองของ อยากได้โลชั่นเตรียมผิวหน้าคุณภาพดีมาใช้ ผู้ที่ผิวไม่แพ้อะไรง่ายๆ เพราะไอ้ที่อุ่นๆนี่บางคนอาจจะกลัวว่าจะแพ้  ต้องไม่มีปัญหาเรื่องสิว และไม่สนใจว่ามันแพง!!!




Moisturizing Emulsion
   
150g 21,000 JPY
Main Ingredients;
Water, glycerin, DPG, hydrogenated polydecene, ethanol, cetyl ethylhexanoate, glyceryl stearate (SE), PEG-400, triisostearate, Mechirugurusesu -10, dimethicone, nylon-12, squalane, PEG/PPG-17 / 4 dimethyl ether, xanthan gum, carboxymethyl glucan Na, di-lauroyl glutamate (phytosteryl / octyl dodecyl), polyquaternium -51, Kyung Ryu extract, Wild thyme extract, extract stem / leaf causes, Mishimasaiko root extract, camellia seed extract, hydrogenated palm oil, palm kernel oil, stearic acid, behenyl alcohol, batyl alcohol, isostearic acid, behenic acid, palm oil, BG, hydrogenated castor oil, PEG-20, carbomer, K hydroxide, Na / acryloyldimethyltaurate (acrylic acid Na) copolymers, isohexadecane, Na metabisulfite, Na metaphosphoric acid, polysorbate 80, sorbitan oleate, tocopherol, citric acid, phenoxyethanol, fragrance, iron oxides
ขนาดจริง 200g





มาถึงส่วนของการบำรุงแล้วครับ Moisturizing emulsion ตัวนี้เคลมว่าเป็น emulsion เนื้อบางเบา เหมาะกับทุกสภาพผิวและให้ความแข็งแรงกับผิวได้แบบเฉียบพลัน เหมาะสำหรับการใช้ก่อนแต่งหน้า และใช้เป็นตัวบำรุงพื้นฐานสำหรับทุกวัน

ขนาด 50g ที่ผมใช้

เนื้อโลชั่นมีสีขาวขุ่น มีกลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนกลิ่นในโฟมล้างหน้าเลย แต่ในโลชั่นนี้กลิ่นชัดเจนกว่า หอมมาก ....อีกแล้วครับ 
ใช้ปริมาณเท่าเหรียญ 100 YEN ตามที่เค้าบอก (ประมาณเหรียญบาท) ค่อยๆแตะๆให้ทั่วผิวหน้าแล้วเกลี่ยให้ทั่วๆหน้าอย่างเบามือ เหลือก็ลงมาที่คอด้วยก็ดีนะครับ ^_^  ความรู้สึกที่ได้ระหว่างใช้ คือเกลี่ยง่าย เนื้อข้นค่อนมาทางเบาตามลักษณธของ emulsion แต่ก็เกลี่ยได้ทั่วทั้งผิวหน้าและใต้คาง ซึมซับเร็วใช้ได้ คือพอทาเสร็จปุ๊บ จะเห็นว่าผิวมันๆขึ้นมานิดหน่อย แต่ทิ้งไว้สักพัก ก็ซึมลงไปจนหมด ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิวเลย ค่อนข้างน่าประทับใจมากในจุดนี้  ให้ความชุ่มชื่นกำลังดีสำหรับคนผิวธรรมดา-ผิวมัน แต่สำหรับคนผิวแห้งมาก น่าจะเบาไปหน่อย อาจต้องใช้ในปริมาณที่เยอะขึ้นนิดนึงจากมาตรฐาน 

สรุปคะแนน 4/5

ข้อดี
- ผิวชุ่มชื้นขึ้นทันทีที่ใช้ ไม่ได้ให้ความรู้สึกสดชื่นแต่เหมือนผิวมีพลังงาน มีชีวิตชีวามากขึ้นทันที
- การซึบซับลงสู่ผิวดีมาก ไม่มันเลย แต่ก็ไม่แห้งตึง^..^
- ลงครีมกันแดด หรือรองพื้นตามแล้วเกลี่ยง่าย เกาะผิว ไม่เป็นปื้นๆ
- หลังใช้ต่อเนื่อง 14 วัน ผิวชุ่มชื้นดีปกติ ไม่แพ้ ไม่เป็นสิว ไม่อุดตัน ผิวดูมีชีวิตชีวาดี ลดเลือนริ้วรอยได้ในระดับที่พอเห็นได้
- กลื่นหอม กำลังดี

ข้อเสีย
- แพงอีกแล้ว ถึงจะเยอะตั้ง 200g แต่ราคาปาไป 8,xxx THB 
- ไม่ให้ผลในเรื่องของการปรับเปลี่ยนสีผิว ลดเลือนข้อบกพร่องที่เกิดจากแสงแดด 

เหมาะกับ ผู้ที่มองหาโลชั่นสำหรับทุกๆวัน ทั้งกลางวันและกลางคืนที่ไม่มัน ให้ความชุ่มชื้นในระดับที่เหมาะกับอากาศบ้านเรา ใช้ง่าย เกลี่ยง่าย แต่งหน้าง่าย และคุณ ต้องมีเงิน!!!

จบแล้วครับกับรีวิว The Ginza SKINCARE the basic set ใครมีคำถามก็ถามกบมาได้ในนี้นะครับ เจอกันรีวิวหน้า เร็วๆนี้ครับผม